วิธีทดสอบ ’ผิวแพ้ง่าย’ รึเปล่า?

1.หากรู้ตัวว่าแพ้อะไร ควรเลี่ยงสิ่งนั้น
ตรวจสอบฉลากข้างผลิตภัณฑ์ว่า มีสารหรือส่วนผสมที่ทำให้เราแพ้ หรือระคายเคืองที่สำคัญประกอบด้วยหรือไม่ เช่น สารพาราเบน , นํ้าหอม , แอลกอฮอล์ หรือ SLS เป็นต้น

2.ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ใกล้วันสำคัญ
เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ผลิตภัณฑ์ที่ลองตัวใหม่จะช่วยฟื้นฟูให้ผิวดีขึ้น หรือทำให้เกิดผื่นแพ้ จนรักษาไม่ทันวันสำคัญหรือเปล่า เพราะการดูแลฟื้นฟูผิวต้องใชัระยะเวลาพอสมควรกว่าจะเห็นผล ดังนั้นหากคุณต้องออกงาน หรือมีงานสำคัญของตัวเองที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงามเป็นหลัก ควรงดหรือหลีกเลี่ยงไปก่อน เนื่องจากไม่ใช่ทุกผลิตภัณฑ์ที่จะเหมาะกับผิวหน้าของเรา

3.ไม่แน่ใจว่าซื้อผลิตภัณฑ์มาแล้วจะแพ้ หรือระคายเคืองหรือไม่
สามารถทดสอบกับตัวเองได้ก่อนที่จะลงมือใช้จริง ด้วยวิธีง่ายๆ โดยนำครีม เจล หรือผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาทดสอบกับผิวหนังสักบริเวณหนึ่งก่อน เช่น ท้องแขน สันกราม ที่บอบบางให้เข้าสู่ผิวหนัง และทิ้งไว้จนครบ 24 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้น เพื่อรอดูผลแพ้ที่จะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องล้างออก แต่ถ้าผ่านเวลานี้ไปก็ถือว่าสามารถใช้ครีมนั้นได้ตามปกติ หรือถ้ามีผื่นแพ้ บวม แดง อาจเป็นสัญญาณให้คุณหยุดใช้ เพราะถือว่าเริ่มแพ้แล้ว

4.เพิ่มระดับการทดสอบอาการระคายเคืองกับแพทย์ผิวหนัง
ในทางการแพทย์จะมีวิธีทดสอบผลิตภัณฑ์นั้นๆ ว่ามีสารระคายเคืองหรือไม่ ด้วยวิธี Patch Test ประมาณ 48 ชั่วโมง เริ่มจากการงดรับประทานยาแก้แพ้หรือกลุ่มสเตียรอยด์ จากนั้นแพทย์จะเริ่มทดสอบการแพ้ต่างๆ นับว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่นำเนื้อผลิตภัณฑ์มาทดสอบว่ามีส่วนผสมอะไร ที่ไวต่อการแพ้ของเราหรือไม่ค่ะ ซึ่งจะได้ผลแม่นยำมากขึ้น

5.ใช้ครีมทีละตัว อย่าใช้หลายตัว
เพราะว่าการทดสอบในข้อ 3 นั้นเป็นการทดสอบเบื้องต้น ซึ่งอาจไม่ 100% ว่าคุณจะไม่แพ้ รวมทั้งการซื้อครีมทีละหลายๆ ตัว ควรเลือกใช้ทีละตัวไปสักพัก เพราะหากใช้หลายๆ ตัว อาจทำให้สับสนได้ว่าอาการแพ้ที่เกิดขึ้น มาจากครีมตัวไหน และส่วนผสมอะไรที่เซนซิทีฟ ดังนั้น ค่อยๆ ใช้ไปทีละตัวจะดีที่สุด

นอกจากจะรักสวยรักงามแล้ว สิ่งที่ต้องระวังคือ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ให้ดี เพื่อป้องกันหน้าพังก่อนหน้าสวยนั่นเองค่ะ